พูดถึงตัวละครการ์ตูนอนิเมชั่นที่บอกเลยว่าไม่น่าจะดัง แต่มันก็ดังระดับโลกขึ้นมาได้ ต้องยกให้กับเจ้ามินเนี่ยนตัวเหลือง ที่แม้เราจะไม่สามารถเข้าใจในสิ่งที่มันพูดได้ แต่ความฮาของพวกเค้าก็ทำให้เราลืมเค้าไม่ลงจริงๆ คิดดูว่าจากตัวประกอบตอนนี้มีหนังเดี่ยวของตัวเองแล้วด้วย ล่าสุดพวกเค้ากลับมาอีกครั้งกับ Minions: The Rise of Gru
Minions: The Rise of Gru เนื้อเรื่องย่อ
มาว่ากันที่เรื่องย่อของ Minions: The Rise of Gru กันบ้าง เรื่องเล่าจะมีฉากหลังในประเทศยุค 60-70 เป็นเรื่องราวต่อจากตอนจบในภาคแรกที่หัวหน้าของพวกเค้าอย่าง Gru ตัวเค้าคนนี้มีความฝันอยากจะเป็นหัวหน้ากลุ่มวายร้าย ซึ่งเป็นจริงแล้วระดับหนึ่งกับการเป็นหัวหน้ากลุ่ม มินเนี่ยนส์ แต่เค้าอยากยกระดับตัวเองมากกว่านั้น ด้วยการเข้าไปสมัครเป็นหนึ่งในสมาพันธ์วายร้ายที่ชื่อว่า เดอะ วิคเชียส 6 แน่นอนว่าโดนปฏิเสธแบบไม่เหลือเยื่อใยทีเดียว เมื่อไม่ได้ตามต้องการ กรู ก็เอาคืนด้วยการขโมยหินวิเศษจากสมาพันธ์ไป เพื่อจะไปตั้งสมาพันธ์เอง ทำให้เค้าต้องเจอการตามล่าจากสมาชิกวายร้ายสุดโหดของสมาพันธ์ อีกด้านหนึ่งระหว่างหลบหนี เค้าเอาหินฝากไว้กับมินเนี่ยนส์อีกตัวชื่อว่า อ็อตโต ก่อนจะไปเจอกันที่ฐาน แน่นอนว่ามันหายไประหว่างทางเมื่ออ็อตโต เอาหินดังกล่าวไปแลกกับของเล่นในงานวันเกิดแห่งหนึ่งที่เค้าเห็นระหว่างทาง ทางหนึ่งก็ต้องหนีหินก็ต้องหา ความฮาเลยบังเกิด
ล้อเลียน จนกรามค้าง
การกลับมาของเหล่ามินเนียนส์ ในเรื่อง Minions: The Rise of Gru แน่นอนว่าสิ่งที่เราคาดหวังว่าจะได้เห็นแล้วคงเจอแน่นอนหากดูจากตัวอย่างที่เปิดออกมานั่นก็คือ ความฮา แบบกรามค้างนั่นเอง โดยปกติหนังมินเนี่ยนส์ จะให้การเลียนแบบหนังหรือกระแสที่เกิดขึ้นแบบที่เรารู้จักกันดี มาล้อเลียนจนกลายเป็นความฮาขั้นสุด เอาแค่ชื่อเรื่อง ใครที่เป็นแฟนหนัง star wars คงยิ้มมุมปากเลย เพราะมันล้อเลียนจากภาคที่ชื่อว่า Rise of skywalker นั่นเอง ยังไม่หมดแค่นั้น ในตัวอย่างเราจะเห็นฉากไล่ล่าบนท้องถนนระหว่างรถของเหล่ามินเนี่ยน กับเทคโนโลยีสุดล้ำของเหล่าสมาพันธ์วายร้าย ที่บอกเลยว่าแต่ละฉากทำไมมันคุ้นจัง
อีกหนึ่งความฮาที่มาเต็ม นั่นก็คือ ความตลก ขี้ลืม และ มึนงงไม่รู้เรื่องของเหล่า มินเนี่ยน ที่งานนี้พวกเค้ามากันเพียบเลย เรียกว่าเป็นกองทัพเลยดีกว่า นั่นจะทำให้เราปวดหัว ลายตา สับสน แต่ฮามากกับความมึนเหล่านั้น เอาแค่ตัวอย่างที่ อ็อตโต้ หนึ่งในสมาชิกของกลุ่ม กล้าๆเอา หินสำคัญของเรื่อง ไปแลกกับ ของเล่นหลอกเด็กอย่าง หินตุ๊กตา เพียงแค่นี้ก็ฮาแล้ว แถมเจ้าตัวยังเชื่ออีกด้วยว่า หินของเล่นนั้นเป็นของวิเศษด้วยนะ
ดาราดังมา(แต่เสียง)เยอะเลย
จุดเด่นของหนังเรื่องนี้อีกอย่างหนึ่งก็คือ การพาเหรดมาร่วมงานกันของเหล่าศิลปินดารานักบู๊ ยุค 80-90 หลายคนที่เชื่อว่าแฟนหนังน่าจะจดจำเสียงของเค้าได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่ Jean-Claude van damme, Dolph Lundgren, Danny Trejo, Michelle Yeoh เรียกว่ามาครบเลยทีเดียว ซึ่งเสียงของนักแสดงเหล่านี้จะทำให้ตัวละครที่พากย์นั้นมีสีสันมากขึ้น แถมคาแรกเตอร์ของตัวละครในเรื่องยังถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับเสียงพากย์ด้วยนะ
สรุปถือว่าเป็นอีกหนึ่งอนิเมชั่นที่บอกเลยว่า แม้จะพูดกันไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไร แต่รับรองได้เลยว่า เราจะเข้าใจความหมายจากสีหน้าท่าทางของตัวละครเหล่านั้นได้เลย ใครที่เคยดูผลงานของพวกเค้ามาในภาคแรกก็เตรียมตัวตีตั๋วเข้าโรงต่อได้เลย